หน้าตาของรถยังคงเหมือนรุ่นปกติไม่เปลี่ยนแปลง ชูจุดเด่นด้วยการออกแบบภายใต้ปรัชญา “L-finesse” ที่โฉบเฉี่ยวและปราดเปรียวตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดดเด่นด้วยดีไซน์กระจังหน้าแบบ “Spindle Grille” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เลกซัส โดยสัญลักษณ์ h ที่อยู่หลังชื่อรุ่น แสดงถึงระบบ “Full Hybrid” ที่ผสานระบบการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ภายในให้อารมณ์สปอร์ต ประณีตล้ำสมัย พร้อมเพิ่มคุณค่าของวัสดุตกแต่งภายในด้วยขอบโลหะ
เบาะ นั่งที่คัดสรรจากหนังวัวชั้นดี ตัดเย็บด้วยความพิถีพิถันแบบโชว์การเดินเส้นด้าย (Stitching) ล้ำสมัยด้วยระบบแผนที่นำทาง (Lexus Navigation) ที่แสดงข้อมูลการจราจรอัจฉริยะ Real time ให้ความสุนทรีย์ทุกการเดินทางด้วยระบบเครื่องเสียงชั้นเลิศที่ออกแบบเฉพาะ ห้องโดยสารของเลกซัส Lexus Premium Audio System พร้อมลำโพงแบบแยกเสียง 12 ตัว ระบบควบคุมแบบมัลติฟังชั่น Remote Touch Interface (RTI) ที่สามารถควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ภายในรถอย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัสพร้อมระบบความปลอดภัยครบครันรอบด้าน ทั้งแบบ Active และ Passive อันล้ำสมัย
เครื่องยนต์มากับเครื่องเบนซิน 4 สูบแถวเรียง D-4S Dual VVT-i 2.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างลงตัว ให้กำลังสูงสุด 223 แรงม้า ระบบส่งกำลังแบบอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง E-CVT (Electronically-Continuously Variable Transmission) อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 9.2 วินาที อัตราความสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 19.23 กม. /ลิตร นอกจากนี้เลกซัส GS 300h ยังมีอัตราการปล่อยมลพิษต่ำสุดตามมาตรฐาน Euro 5
Lexus GS300h มีราคาค่าตัวที่ 4,090,000 บาทครับ
Update ทุกความเคลื่อนไหวไปกับเรา ได้ที่ Facebook ข้างล่างนี้
และอีกหนึ่งแฟนเพจครับ New Cars Around The World Fan Page
No comments:
Post a Comment